เครื่องหมายการค้ามีความหมายว่าอะไร และวิธีการจดเครื่องหมายการค้า ต้องทำอย่างไร
08
สิงหาคม
โดย: Tanaysocial 0 ความเห็น

เครื่องหมายการค้ามีความหมายว่าอะไร และวิธีการจดเครื่องหมายการค้า ต้องทำอย่างไร

หากมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ ทุกปัญหามีทางออก

ปรึกษากฎหมาย

โทร 02-194-4707 , 095-169-9998

ทนายธีรเมศร์/ทนายเบล    

หรือสามารถส่งข้อความที่ต้องการสอบถาม มายังไลน์ (Line) เพียงกดเพิ่มเพื่อน ด้านล่างนี้ได้เลย

เพิ่มเพื่อน

 

 "การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า " คือ ขั้นตอนที่สำคัญในการทำธุรกิจ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจและสินค้านั้น ๆ เป็นที่รู้จัก มีความแตกต่าง และสร้างภาพจำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอีกด้วย  การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าถือเป็นเรื่องสำคัญของคนทำธุรกิจ เพราะเป็นประโยชน์อย่างมากในการดำเนินธุรกิจ แถมยังมีประโยชน์ทางด้านกฎหมายอีกด้วย การจดเครื่องหมายการค้ามันคืออะไร? และหากต้องการจดเครื่องหมายการค้า จะต้องใช้เอกสารหรือมีขั้นตอนการจดเครื่องหมายการค้ายังไงบ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อน ๆ เจ้าของกิจการทุกคน

 

   "ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า" ประกอบไปด้วย การเช็กเครื่องหมายการค้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่คล้ายหรือซ้ำกับธุรกิจอื่น, การยื่นคำขอเพื่อจดทะเบียน และการชำระค่าธรรมเนียมและรอรับหนังสือสำคัญ

 

            เครื่องหมายการค้า คืออะไร?

               “เครื่องหมาย” หมายความว่า ภาพถ่าย ภาพวาด ภาพประดิษฐ์ ตรา ชื่อ คำ ข้อความ ตัวหนังสือ ตัวเลข ลายมือชื่อ กลุ่มของสี รูปร่างหรือรูปทรงของวัตถุ เสียง หรือสิ่งเหล่านี้อย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน

               ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายเกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อแสดงว่าสินค้าที่ ใช้เครื่องหมายนั้น แตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เช่น “บรีส” , “มาม่า” , “กระทิงแดง” เป็นต้น “เครื่องหมายการค้า” ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะเครื่องหมายการค้า คือ สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่เอาไว้แสดงและบ่งบอกว่าสินค้าชิ้นนั้น ๆ ว่ามาจากธุรกิจของเรา ซึ่งให้มีความแตกต่างจากสินค้าแบบอื่น ๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน

               การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้กลุ่มลูกค้า สามารถจดจำภาพและเอกลักษณ์ของแบรนด์เราได้เป็นอย่างดี เช่น แบรนด์  "SCG" หรือ "7-11  eleven"  แถมยังเอาไว้ใช้ในการสร้างธุรกิจและทำแบรนด์ให้เติบโตมากขึ้นในอนาคต และที่สำคัญคือเอาไว้ใช้ประโยชน์ทางด้านกฎหมายได้อีกด้วย

 

           

ตัวย่างเครื่องหมายการค้าของ SCG 

ข้อมูลเครื่องหมายการค้าจากอินเตอร์เน็ต 

   

 

   

 ตัวย่างเครื่องหมายการค้าของ เซเว่น

ข้อมูลเครื่องหมายการค้าจากอินเตอร์เน็ต 

 

 

            ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า มีขั้นตอน ดังนี้

       ขั้นตอนที่  1. เช็กตัวเครื่องหมายการค้า เนื่องจากในปัจจุบันมีเครื่องหมายการค้า ทั้งแบบที่จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และแบบที่กำลังยื่นเรื่องจำนวนมาก จึงต้องมีการเช็กว่าเครื่องหมายการค้าที่เราจะเอามาจดทะเบียน ไม่ได้ไปเหมือนหรือคล้ายกับของธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งหมด 2 วิธีด้วยกัน

                    วิธีที่ 1 เช็กที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการเช็กชั่วโมงละ 100 บาท โดยสามารถไปยื่นเรื่องขอเช็กได้ที่กระทรวงพาณิชย์ ชั้น 3 

                    วิธีที่ 2 เช็กด้วยตัวเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถเข้าไปเช็กได้ที่เว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา

 

 

        ขั้นตอนที่  2. หลังจากตรวจสอบเครื่องหมายการค้าเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าสู่ กระบวนการ #ยื่นคำขอเพื่อจดทะเบียน โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดเตรียมเอกสารและกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย โดยเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้

               2.1 คำขอจดทะเบียน แบบ ก.01 พร้อมติดรูปเครื่องหมายการค้า ขนาดไม่เกิน 5×5 ซม.(ต้นฉบับ 1ชุดและสำเนาอีก 5 ชุด)

               2.2 รูปเครื่องหมายการค้า ขนาดไม่เกิน 5×5 ซม. (จำนวน 5 รูป)

              2.3 เอกสารระบุตัวตนเจ้าของเครื่องหมายการค้า สำเนาบัตรประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) / สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลที่ออกไม่เกิน 6 เดือน (กรณีนิติบุคคล) / หนังสือมอบอำนาจ แบบ ก.18 และสำเนาบัตรประชาชน (กรณีมอบอำนาจ)

 

             กรณีการตั้งตัวแทนหรือมอบอำนาจได้กระทำในประเทศไทย ให้แนบเอกสาร ดังนี้

(1) สำเนาหนังสือตั้งตัวแทนหรือหนังสือมอบอำนาจ (แบบ ก. 18)

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรประจำตัวอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้  หรือต้นฉบับหนังสือรับรองนิติบุคคลที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือนของตัวแทน แล้วแต่กรณี

(3) หากผู้ตั้งตัวแทนหรือผู้มอบอำนาจมิได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ให้แนบสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาหนังสือรับรองถิ่นที่อยู่ชั่วคราว หรือหลักฐานอื่นที่แสดงให้เห็นว่าในขณะตั้งตัวแทนหรือมอบอำนาจ ผู้นั้นได้เข้ามาในประเทศไทยจริง

 

 

ดูวิธีและขั้นตอนการจัดการมรดกได้ที่นี้

คลิก https://www.tanaysocial.com/article/NjdMQHd5ZVItUyF0ZTIwMjA=

 

 

            กรณีการตั้งตัวแทนหรือมอบอำนาจได้กระทำในต่างประเทศ ให้แนบเอกสาร ดังนี้

  (1) สำเนาหนังสือตั้งตัวแทนหรือหนังสือมอบอำนาจที่มีคำรับรองลายมือชื่อ โดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของสถานทูตไทย หรือสถานกงสุลไทย หรือหัวหน้าสำนักงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งประจำอยู่ ณ ประเทศที่ผู้ตั้งตัวแทนหรือผู้มอบอำนาจมีถิ่นที่อยู่ หรือเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายให้กระทำการแทนบุคคลดังกล่าว หรือมีคำรับรองของบุคคลซึ่งกฎหมายของประเทศนั้น ให้มีอำนาจรับรองลายมือชื่อ

  (2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรประจำตัวอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ หรือต้นฉบับหนังสือรับรองนิติบุคคลที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือนของตัวแทน แล้วแต่กรณี

 

           ขั้นตอนที่ 3. เอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น #หลักฐานพิสูจน์ลักษณะบ่งเฉพาะ หรือ #หนังสือผ่อนผันการนำส่งเอกสาร (แบบ ก.19) เป็นต้น

 

 

        เมื่อรวบรวมข้อมูลครบถ้วนท่านสามารถยื่นคำขอเพื่อจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ที่

  •         กรมทรัพย์สินทางปัญญา (ชั้น 3)
  •         สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัด หรือ
  •         บริการไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ

           

            ขั้นตอนที่ 4. ค่าธรรมเนียมและรอรับหนังสือสำคัญ

              เมื่อยื่นคำขอเพื่อจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะต้องชำระค่าธรรมเนียม โดยคิดเป็นรายการสินค้าหรือบริการละ 500 บาท และหากรูปเครื่องหมายการค้าที่ยื่นคำขอไปมีขนาดเกินกว่าที่กำหนดไว้ จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก เซนติเมตรละ 100 บาท และถ้าเครื่องหมายการค้านั้น ๆ ผ่านการพิจารณาและได้รับการจดทะเบียน จะต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกรายการละ 300 บาท ภายใน 30 วัน หลังได้รับหนังสือแจ้ง หลังจากนั้นผู้ประกอบการก็เตรียมรอรับหนังสือสำคัญที่แสดงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้เลย โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะจัดส่งให้ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งเอาไว้ ภายใน 2 สัปดาห์ หลังชำระค่าธรรมเนียม

 

 

 

ดูความหมายของการ"ขายฝาก"และผลประโยชน์ที่ได้มาระหว่างขายฝากได้ที่นี้ คลิก https://www.tanaysocial.com/article/NjhMQHd5ZVItUyF0ZTIwMjA=

 

 

           ขั้นตอนที่ 5. ข้อพึงระวัง

5.1.กรณีผู้ขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (อาทิ บริษัท ห้างหุ้นส่วน) ให้ระบุชื่อเจ้าของในแบบ ก.01 เป็นชื่อนิติบุคคล มิใช่ชื่อกรรมการของนิติบุคคลดังกล่าว

5.2.หากมีการดำเนินการในนามของนิติบุคคล เช่น การยื่นคำขอจดทะเบียน การมอบอำนาจ เป็นต้น ต้องมีการลงลายมือชื่อโดยกรรมการผู้มีอำนาจลงนามและประทับตราสำคัญตามข้อกำหนดในหนังสือรับรองนิติบุคคล

5.3.กรณีเป็นกลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชน หรือองค์กรอื่นใด ที่ไม่ใช่นิติบุคคลหากต้องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า จะต้องยื่นในนามประธานกลุ่มหรือผู้แทนที่กลุ่มมอบหมายให้ดำเนินการเป็นเจ้าของในนามของบุคคลธรรมดา เช่น นางทรัพย์สิน ปัญญา (ประธานกลุ่มแม่บ้าน.................) เป็นต้น พร้อมแนบรายงานการประชุมของกลุ่มที่มีการมอบหมายให้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว

5.4.หากนำลายมือชื่อของบุคคลอื่นมาเป็นเครื่องหมายการค้า จะต้องมีหนังสือให้ความยินยอมประกอบคำขอจดทะเบียนด้วย

5.5.หากนำภาพของผู้ขอจดทะเบียนมาเป็นเครื่องหมายการค้าผู้ขอจะต้องทำหนังสือแสดงเจตนาที่จะใช้ภาพของตนเองเป็นเครื่องหมายการค้าด้วย กรณีนำภาพของบุคคลอื่นมาใช้จะต้องมีหนังสืออนุญาตจากเจ้าของให้ใช้ภาพดังกล่าว หากเป็นภาพของบุคคลที่ตายแล้วจะต้องมีหนังสืออนุญาตจากบุพการี ผู้สืบสันดาน และคู่สมรส (ถ้ามี) ให้ใช้ภาพดังกล่าว

5.6.การระบุรายการสินค้าและบริการในคำขอจดทะเบียน (แบบ ก.01) ผู้ขอควรดูจากรายการสินค้าและบริการที่กรมฯ ได้จัดทำไว้เป็นหลัก

5.7.หากเครื่องหมายที่ยื่นขอจดทะเบียนเป็นภาษาต่างประเทศ ให้ระบุคำอ่านและคำแปลตามพจนานุกรมให้ครบถ้วน สำหรับภาษาจีนให้ระบุคำอ่านและคำแปลทั้งตามสำเนียงจีนกลางและแต้จิ๋ว

 

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

บริษัท ทนายโซเชียล จำกัด

อาคารศรีประจักษ์ เลขที่ 2 ห้อง 101 ซอยลาดพร้าว 120

ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง

กรุงเทพมหานคร 10310

โทร 02-194-4707 , 095-169-9998 

 

หรือช่องทาง

1. เว็บบอร์ด  >>> https://www.tanaysocial.com/forum

2. แฟนเพจ >>>  https://www.facebook.com/tanaysocial/

3. ส่งคำถามหน้าเว็บไซร์ >>> https://www.tanaysocial.com/ 

ไปที่หัวข้อ  "ส่งคำปรึกษามาถามเราสิ

4. ไอดี Line คลิก

 เพิ่มเพื่อน

เครื่องหมายการค้ามีความหมายว่าอะไร และวิธีการจดเครื่องหมายการค้า ต้องทำอย่างไร

0 ความเห็น

แสดงความเห็น