ประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด แต่ชำระเงินยังไม่ครบถ้วน สามารถฟ้องขับไล่เจ้าของที่ดิมคนเดิมได้หรือไม่
ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด ถ้ายังชำระราคาไม่ครบถ้วน แม้จะมีการวางมัดไว้ ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองไม่สามารถ "ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกไม่ได้"
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 คือ หนึ่งในมาตราที่ยกเว้นหลักเจ้าของกรรมสิทธิ์ย่อมมีสิทธิติดตามเอาทรัพย์ของตนเองคืน เนื่องจาก มาตรา 1330 มุ่งคุ้มครองบุคคลผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล หรือตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (จพท.) แม้ว่าทรัพย์สินนั้นจะไม่ใช่ของจำเลย ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือผู้ล้มละลาย
หัวใจที่สำคัญของมาตรา 1330 คือ ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดตามมาตรา 1330 คือ ผู้ซื้อทรัพย์จะต้องสุจริต
คำว่า "สุจริต" หมายถึง รู้และเข้าใจว่าทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดตามมาตรา 1330 คือ ทรัพย์สินของจำเลย ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือผู้ล้มละลาย ดังนี้ หากผู้ซื้อทราบว่ามิใช่ของบุคคลดังกล่าว ผู้ซื้อย่อมไม่สุจริต
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ
มาตรา 1330 มิได้บัญญัติเรื่องเสียค่าตอบแทนด้วย ถามว่า ผู้ซื้อทรัพย์จะต้องเสียค่าตอบแทนก่อนหรือไม่ กฎหมายถึงจะคุ้มครอง การซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลหรือคำสั่ง จพท. นั้น
ผู้ซื้อจะต้องเสียค่าตอบแทน หมายถึง ชำระเงินตามราคาที่ตนประมูลได้จากการขายทอดตลาด โดยชำระตามเงื่อนไขในการขายทอดตลาดด้วย หากผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดตามมาตรา 1330 ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังไม่ได้ชำระราคา กล่าวคือ ยังไม่ได้เสียค่าตอบแทนให้ครบถ้วน วางแค่มัดจำไว้เท่านั้น หรือ ไม่ได้วางมัดจำเลย ...!!!!
ถ้ามีคนมาบุกรุกที่ดินดังกล่าว ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดในลักษณะนี้ สามารถฟ้องขับไล่ได้หรือไม่
คำตอบคือ
เดิม มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2537
วินิจฉัยว่า แม้ผู้ซื้อทรัพย์ตามมาตรา 1330 จะยังมิได้ชำระราคาที่ดินพิพาทครบถ้วนหรือยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อก็มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้อยู่อาศัยในที่ดินพิพาทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330
"สรุปคือ ก่อนหน้านี้สามารถฟ้องได้
แต่ปัจจุบันนี้ มีคำพิพากษาศาลฎีกาประชุมใหญ่ที่ 1162/2561 วินิจฉัยว่า ผู้ซื้อทรัพย์ตามมาตรา 1330 ถ้ายังชำระราคาไม่ครบถ้วน แม้จะมีการวางมัดไว้ ก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1330 ซึ่งหมายถึง"ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกไม่ได้"
โดยศาลฎีกาให้เหตุผลว่า โจทก์เป็นผู้เสนอราคาสูงสุดในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลและได้รับอนุญาตให้"ขยายระยะเวลาชำระราคาไปจนกว่าคดีที่จำเลยร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทถึงที่สุด ก็เพียงก่อสิทธิแก่โจทก์ว่า โจทก์ยังจะมีสิทธิเป็นผู้ซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลให้สำเร็จลุล่วงต่อไปเท่านั้น ตราบใดที่โจทก์ยังมิได้ชำระราคาค่าซื้อทรัพย์สินตามเงื่อนไขการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล โจทก์ย่อมไม่ใช่ผู้ซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1330 เพราะโจทก์อาจผิดสัญญาการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล ทำให้การขายทอดตลาดไม่สำเร็จได้ โจทก์จึงยังไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย (ฎ.1162/2561 ประชุมใหญ่)
ดังนี้ หัวใจสำคัญของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1330 นอกจากผู้ซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งของ จพท. จะต้องสุจริตแล้ว ผู้ซื้อจะต้อง เสียค่าตอบแทนครบถ้วนแล้ว ด้วย
โดยทนายธนกฤต เบ้าธรรม (ทนายเบลล์)
ปรึกษากฎหมายเพิ่มเติม 02-194-4707 , 088-947-5647 , 095-169-9998
หรือส่งข้อความมาสอบถามได้ที่
Line กดเพิ่มเพื่อน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/tanaysocial/
เว็บไซร์ https://www.tanaysocial.com/
0 ความเห็น
แสดงความเห็น